>>  ข้อมลทั่วไป

 

>>  สถานที่ท่องเที่ยว

--------------------------------------------------------------------------------

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดเลย

วัดศรีคุณเมือง 
          อยู่ที่ถนนชายโขง ซอย ๗ ทางด้านเหนือของตลาดเชียงคาน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ มีกำแพงแก้วล้อมรอบตัวพระอุโบสถ วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้างดังจะเห็นได้จากโบสถ์ ซึ่งหลังคาลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา ศิลปวัตถุที่สำคัญมีหลายชิ้น เช่นพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง พระพุทธรูปดังกล่าวมีพระเกศาเป็นปุ่มแหลมเล็ก พระกรรณค่อนข้างแหลมและยาว สันนิษฐานว่ามีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๔-๒๕ นอกจากนี้ในวัดยังมีธรรมาสน์แกะสลักไม้ลงรักปิดทองทุกด้านที่พนักหลังมียอดคล้ายปราสาท ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพนิทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม

แก่งคุดคู้   
          เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ช่วงโค้งของลำน้ำโขงพอดี ทำให้เกิดกระแสน้ำเชี่ยวไหลผ่านแก่ง ในหน้าน้ำ น้ำจะท่วมจนมองไม่เห็นแก่ง เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้งมองเห็นเกาะแก่งชัดเจนมีโค้งสันทรายริมแม่น้ำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสสายน้ำโขงและธรรมชาติสองฝั่งอย่างใกล้ชิด ที่บริเวณแก่งคุดคู้มีบริการเช่าเรือยนต์ล่องแม่น้ำโขง ใช้เวลาไป-กลับประมาณ ๑ ชั่วโมง ราคาแล้วแต่จะตกลง  นอกจากนี้ยังมีร้านขายอาหาร เช่น ไก่ย่าง ส้มตำ ลาบ โดยเฉพาะพล่า กุ้งเต้น ต้มยำปลาจากลำน้ำโขงเป็นอาหารแนะนำในราคาไม่แพง การเดินทาง จากตัวอำเภอเชียงคานนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถสายรอบเมืองไปแก่งคุดคู้ได้ซึ่งห่างจากตัวอำเภอเชียงคานไปประมาณ ๓ กิโลเมตร

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง   
          ภูหลวงมีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่ หรือหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ ภูหลวงประกาศให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๑๗   มีพื้นที่ประมาณ ๕๖๐,๕๙๓ ไร่ สภาพทั่วไปเป็นพื้นที่ราบสูง อากาศเย็นตลอดปี ตั้งอยู่ในบริเวณท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และอำเภอภูหลวง ฤดูกาลบนภูหลวงมี ๓ ฤดูเหมือนพื้นราบแต่ระดับอุณหภูมิต่างกัน ฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ ๒๐-๒๔ องศาเซลเซียส จะมีดอกไม้ที่มีสีสันเจิดจ้าสวยงามเช่นเอื้องตาเหิน กล้วยไม้ป่าดอกขาว กุหลาบขาวและกุหลาบแดงช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมทุ่งกุหลาบขาวและกุหลาบแดง คือระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ฤดูฝนอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม อุณหภูมิใกล้เคียงหรือสูงกว่าหน้าร้อนเล็กน้อยจะมีดอกไม้ป่าดอกเล็ก ๆ สีชมพูอมม่วงขึ้นแซมตามทุ่งหญ้า ฤดูหนาวอุณหภูมิลดลงมาก เฉลี่ย ๐-๑๖ องศาเซลเซียส      ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม บางวันอุณหภูมิลดลงถึง –๔ องศาเซลเซียสจะมี  ก่วมแดงหรือที่รู้จักกันว่าเมเปิ้ล จะเปลี่ยนสีแดง แล้วผลัดใบ ตามพื้นดินจะเห็นต้นกระดุมเงินและรองเท้านารีปีกแมลงปอขึ้นอยู่บนก้อนหินและตามพื้นป่าดิบเขา ด้านตะวันออกของเทือกภูหลวงมีการค้นพบซากหินรอยเท้าไดโนเสาร์อายุกว่า ๑๒๐ ล้านปี นอกจากนี้ยังมีป่าหลากชนิด เช่น ป่าผลัดใบหรือป่าเบญจพรรณ  ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา  แต่ป่าที่โดดเด่นที่สุดบนภูหลวง คือป่าสนสองใบ สนสามใบ และทุ่งหญ้าตามพื้นที่ราบ เนินเขาและลานหิน  นอกจากนั้นทางเขตฯ ได้จัด เส้นทางศึกษาธรรมชาติภูหลวง  เป็นเส้นทางที่ขึ้นทางอำเภอภูเรือ โดยเริ่มจากโคกนกกระบา ผ่านลานสุริยัน ผาสมเด็จ รอยเท้าไดโนเสาร์ ระหว่างทางจะพบกุหลาบขาวและกุหลาบแดง กล้วยไม้ป่าต่าง ๆ โดยใช้ระยะทางเป็นเวลา ๑-๒ วัน        นักท่องเที่ยวที่เดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางด้วย

สวนหินผางาม หรือคุนหมิงเมืองไทย 
          อยู่ที่บ้านผางาม หมู่ ๑๐ ตำบลปวนพุ จากกิ่งอำเภอหนองหินใช้เส้นทางหมายเลย ๒๐๑ เลย-ชุมแพ ไปประมาณ ๔๓ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปประมาณ ๑๙ กิโลเมตร จนถึงสวนผางาม เป็นสวนหินปูนอายุประมาณ ๒๓๐–๒๘๐ ล้านปี ที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนชายฝั่งระดับตื้น ต่อมาเปลือกโลกยกตัวขึ้น และมีการผุพังจากธรรมชาติหลายล้านปี ทำให้ภูเขามีลักษณะสวยงามแปลกตาคล้ายกับสวนหิน ที่เมืองคุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จนได้รับการขนามนามว่า “คุนหมิงเมืองไทย” ภายในบริเวณสวนหินมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไว้บริการ การเดินเที่ยวชมธรรมชาติสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำชมสวนหินผางามในการนำชมเป็นกลุ่ม ๆ ละ ๑๐ คน นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าบริการนำชม ๑๐๐ บาท/กลุ่ม เนื่องจากทางเดินภายในสวนหินแคบและวกวนอาจมีการพลัดหลงได้ เส้นทางเดินชมสวนหินมีจุดที่น่าสนใจได้แก่ ถ้ำทะลุ ภูเขาทรงแปลกคล้ายรูปสัตว์ จุดชมวิวที่ยอดเขาผาบ่อง หรือภูเขาหินที่มีลักษณะเป็นช่องทะลุตรงกลาง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
          ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีฐาน มีพื้นที่ ๒๑๗,๕๗๖ ไร่ ประกาศเป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๐๕ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทยเพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ ป่าต้นเมเปิ้ล พันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม กุหลาบป่า เอื้องคำหิน น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ ลักษณะเด่นของอุทยานฯแห่งนี้คือเป็น    ภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่คล้ายใบบอนหรือรูปหัวใจ มีความสูง ๔๐๐-๑,๒๐๐ เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ก่อนเดินทางมาท่องเที่ยวป่าเขาที่ภูกระดึง นักท่องเที่ยวควรสำรวจสุขภาพความพร้อมของร่างกายก่อนเดินทางเพราะต้องใช้เวลาเดินและปีนป่ายเขาที่มีระยะทางร่วม ๙ กิโลเมตร (ขึ้นเขา ๕ กิโลเมตร ทางราบอีกประมาณ ๓-๔ กิโลเมตร)

อุทยานแห่งชาติภูเรือ 
          ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ และอำเภอท่าลี่ อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นภูเขาสูงใหญ่ บนยอดเขาเป็นที่ราบกว้างใหญ่ มีต้นสนขึ้นสลับ    ซับซ้อน มีลักษณะแปลกคือ มีส่วนหนึ่งเป็นผาชะโงกยื่นออกมาเหมือนหัวเรือสำเภาใหญ่ ลักษณะภูมิประเทศเป็น     ทิวเขาสลับซับซ้อนประกอบด้วยเขาหินทรายและหินแกรนิตสลับกัน สัตว์ป่าที่พบเห็นได้แก่ หมี เก้ง หมาใน ไก่ฟ้าพญาลอ เต่าปูลู อุทยานภูเรืออยู่บนยอดเขาสูงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปีและเป็นอุทยานที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก จนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าจะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า “แม่คะนิ้ง” ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๒๒ มีเนื้อที่ประมาณ ๗๕,๕๒๕ ไร่ ช่วงเดือนที่เหมาะที่จะมาเที่ยวคือเดือนตุลาคม-มีนาคม

พระธาตุศรีสองรัก 
         
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอด่านซ้ายประมาณ ๑ กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัด ๘๓ กิโลเมตร พระธาตุศรีสองรักมีรูปทรงลักษณะศิลปกรรมแบบล้านช้าง องค์พระธาตุสูง ๑๙.๑๙ เมตร ฐานกว้างด้านละ ๑๐.๘๙ เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสอง องค์ระฆังทรง “บัวเหลี่ยม” คล้ายพระธาตุพนม พระธาตุหลวง (เวียงจันทน์) พระธาตุศรีโคตรบอง (แขวงคำม่วน) และอีกมากมายแถบลุ่มน้ำโขง พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (หมายถึงเจดีย์สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศให้พระศาสนา โดยไม่กำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) สร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๑๐๓ เสร็จในปี พ.ศ.๒๑๐๖ พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา(สมัยพระมหาจักรพรรดิ)และกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรกศิลปะธิเบตด้วย  ทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ชาวด่านซ้ายหรือ “ลูกผึ้งลูกเทียน” จะร่วมกันจัดงานสมโภชพระธาตุศรีสองรักขึ้นโดยจะนำต้นผึ้ง (ประดิษฐ์จากโครงไม้ไผ่เป็นทรงหอปราสาทขนาดกว้าง ๒ ฟุต สูง ๒ ฟุตเศษ  กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวกจากนั้นประดับด้วย “ดอกผึ้ง” ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลม ๆ บาง ๆ ตากแดดแล้วจับเป็นกลีบ ตรงกลางติดดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็ก ๆ ต่างเกสรดอกไม้สีสดใส) เทียนเวียนหัว (เทียนแท่งที่ฟั่นยาวพอคาดได้รอบศีรษะ) มาถวายองค์พระธาตุถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุศรีสองรักขึ้นทุกปี การเดินทาง จากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข ๒๐๓ เส้นเลย-ภูเรือ แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข ๒๐๑๓ อีก ๑๕ กิโลเมตร ถึงอำเภอด่านซ้ายจากนั้นแยกขวาเข้าเส้นทาง ๒๑๑๓ อีก ๑ กิโลเมตร

วัดเนรมิตรวิปัสสนา 
          ตั้งสูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อย พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลังที่เกิดจากจินตนาการสร้างสรรค์ออกแบบโดยพระและเณร ภายในพระอุโบสถตกแต่งไว้ตามแบบศิลปะส่วนกลาง มีพระพุทธชิณราชจำลองเป็นพระประธาน และมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อมหาพันธ์  สีลวิสุทโธ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มและได้มรณภาพแล้วประดิษฐานอยู่ และมีภาพจิตกรรมที่สวยงามประดับอยู่โดยรอบพระอุโบสถ  นอกจากนี้บริเวณพื้นที่โดยรอบมีการจัดแต่งสวนต้นไม้ที่ร่มรื่นสวยงาม และมีต้นไม้ที่สำคัญทางพุทธศาสนา คือ “ต้นสาละ” เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ

น้ำตกตาดเหือง (น้ำตกไทย-ลาว) 
          อยู่ในลำน้ำเหือง มีความลดหลั่นลงมา ๓ ชั้น สูงประมาณ ๕๐ เมตร มีน้ำไหลตลอดปี บริเวณรอบ ๆ มีความร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อน และเป็นน้ำตกที่แบ่งเขตพรมแดนระหว่างไทย-ลาว

 

 

 
 
 
 
 
 
 

Webmaster : wanleeya lomloi contract to : wanleeya lomloi@yahoo.com Tel :  06-7508678
copyright 2006 All right reserved